วิธีการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็ว: 4 ทางลัดสุดเจ๋ง

คุณอยากพูดภาษาญี่ปุ่นให้ได้ตอนนี้เลยใช่ไหม?
ใช่!!! เดี๋ยวนี้เลย
ถ้าคำโปรยข้างต้นคือสิ่งที่คุณไขว่คว้าอยู่ ฉันคิดว่าฉันพอหาทางให้คุณได้นะ (และหวังว่า คุณจะไม่ผวาไปเสียก่อน)
คุณคงจะเคยเงยหน้าขึ้นมาหลังจากจมไปกับหนังสือเรียน กับหนังสือการ์ตูนมังงะ หรือเงยหน้าขึ้นมาจากความรู้สึกสิ้นหวังว่าเราจะต้องพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เรื่อง คุณแหงนหน้าขึ้นไปมองบนฟ้าอย่างอ้อนวอนพร้อมกับคิดว่า:
เรามันเรียนไม่เข้าหัวเลยว่ะ!
ดังนั้น คุณเลยพุ่งไปที่คอมพ์ของคุณ พิมพ์ลงไปในช่องค้นหาของกูเกิ้ลอย่างสิ้นหวังว่า “วิธีเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นให้ได้อย่างรวดเร็ว” แล้วไงต่อ? มันขึ้นอะไรมาให้คุณบ้าง? พนันได้เลยว่าคุณจะพบเจอกับผู้คนมากมายตามช่องความคิดเห็นที่คอยดับไฟความมุ่งมั่นของคุณ หรือที่แย่ไปกว่านั้น พวกเขาจะบอกกับคุณเลยว่า ให้เลิกเรียนภาษาญี่ปุ่นไปซะ เพราะว่ามันเป็นภาษาที่เรียนและเข้าใจได้ยากที่สุดในโลก คุณนั่งจมบนเก้าอี้ คอตก ครุ่นคิดว่านี่เรากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?
สูดหายใจเข้าช้าๆลึกๆ ไม่ต้องไปสนใจคนพวกนั้น หาขนมขบเคี้ยวทานเล่นสักหน่อย
ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มเรียน ฮิรางานะ และ คาตาคานะ เป็นครั้งแรก หรือเพิ่งพานพบกับภาษาที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน โดยที่คุณรู้สึกว่า ยิ่งเรียนก็ยิ่งไปไม่ถึงไหน
ถ้าสมัยเด็ก คุณเคยถูกจับโยนลงไปในทะเลสาบและโดนคนบนบกสั่งว่าให้ว่ายน้ำให้ได้ล่ะก็ คุณก็น่าจะรู้ว่า คุณทำอย่างนั้นไม่ได้แน่นอน คุณไม่สามารถที่จะลังกาหลังแล้วว่ายท่าผีเสื้อได้ราวกับนักกีฬาว่ายน้ำอย่างทันทีทันใดได้หรอก แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มันก็ยังพอมีทริคที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้ได้เร็วขึ้นอยู่บ้าง
กุญแจสำคัญในการพัฒนาทักษะคุณคือการผนวกรวมกัน รวมอักษรคันจิเข้ากับการท่องศัพท์ของคุณ รวมแรงกับเพื่อนของคุณ รวมหลักไวยากรณ์เข้ากับการฝึกพูดของคุณ และรวมวิถีชีวิตประจำวันของคุณเข้ากับสิ่งเร้าที่มีองค์ประกอบของภาษาญี่ปุ่น
นี่เป็นเคล็ดเล็กๆน้อยๆเพื่อเพิ่งพลังให้กับคุณ

วิธีการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็ว: 4 ทางลัดสุดเจ๋ง

1.ท่องคำศัพท์กับท่องคันจิไปพร้อมๆกัน
ยอมรับซะเถอะ: การเรียนคันจิ (漢字 หรือตัวอักษรภาษาจีน) นั้นไม่เป็นมิตรกับคุณเลยแม้แต่น้อย มันเรียนรู้ได้ช้า และยากที่จะเข้าใจ ในหนังสือเรียนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีบริบทให้กับคันจิเพื่อนำไปใช้ได้จริงเลย แถมยังมีตัวอักษรตั้ง 2,000 ตัวที่ใช้กันเป็นปกติ ทรมานคุณไม่จบไม่สิ้น เริ่มไม่เห็นทางลัดแล้วใช่ไหมล่ะ?
แต่อย่าได้กลัวไปเลย ยังมีทางออกอยู่ ฉันมั่นใจอย่างยิ่งยวด เอาล่ะเมื่อคุณเลื่อนมาถึงนี่แลว และเป้าหมายคุณก็คืออยากเรียนภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่วในเวลาอันรวดเร็วแล้วละก็ คุณจะต้องหาทางอ้อมให้กับตัวอักษรคันจิและลำดับจังหวะของพวกมัน อย่างน้อยก็ในตอนนี้ ด้วยเครื่องมือเครื่องไม้ที่ทันสมัยในยุคนี้ เลยทำให้การเขียนคันจิให้ได้นั้นถูกลดความสำคัญลง และไปเพิ่มให้กับการสะกดในรูปของฮิรางานะใส่โทรศัพท์สมาร์ทโฟนให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ที่คุณต้องทำก็คือ ต้องเพิ่มคลังคำศัพท์ให้กับตัวคุณให้ได้มากที่สุด งานช้างเลยเนอะ แหงล่ะ และนี่คือจุดเริ่มต้นให้กับคุณ:
คุณต้องตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองเสียก่อน
แต่คุณจะจัดการเป้าหมายในการท่องศัพท์ของคุณได้อย่างไร ในขณะที่คุณก็ต้องเรียนรู้ตัวอักษรคันจิที่คุณสามารถเอาไปใช้ในการสนทนาให้ได้ด้วย?
เข้าทดสอบ การสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น หรือ JLPT
เข้าไปที่ “日本語単語スピードマスター (にほんご たんご すぴーどますた” ของซายากะ คุระชินะ สำหรับคำศัพท์ใน JLPT ระดับ 1-5
“โอ๊ยย” คุณจะต้องร้องโวยวายแน่นอนว่า “แต่ฉันเกลียดการสอบ และมันไม่ได้ทดสอบเขียนหรือพูดเลยนี่”
อา โปรดฟังก่อน พ่อคนใจร้อน
คิด วิเคราะห์ แยกแยะ
คุณต้องมีเป้าหมายเพราะว่าคุณจะได้มีอะไรบางอย่างมาเป็นตัวชี้วัดความก้าวหน้าของคุณ แต่คุณต้องกำหนดกรอบเวลาด้วย มันจะบังคับให้คุณตั้งใจเรียนให้ดีขึ้น
เอาเป็นว่า เป้าหมายของคุณคือพิชิต JLPT ให้ได้ในระดับที่เหมาะสมภายในหน้าหนาว หรือหน้าร้อนปีหน้า ตอนนี้คุณต้องรีบหาหนังสือชื่อ “สปีด มาสเตอร์” หนังสือที่รวบรวมคำศัพท์ไว้ได้อย่างหลากหลายมาไว้ในครอบครองด่วนที่สุด ในแต่ละห้าระดับของซีรี่ส์ คุณจะได้เรียนรู้คำศัพท์ที่จำเป็นสำหรับการทดสอบแต่ละครั้งตามบริบทต่างๆ บทต่างๆจะครอบคลุมหัวข้อบทสนทนาในแต่ละหัวข้อ ดังนั้นคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่คุณต้องการสำหรับ “การคมนาคม” ของคุณนั้น รวมอยู่ในที่เดียวแล้ว
แต่ช้าก่อน คุณอาจจะถามกลับว่า แล้วฉันจะไปเรียนคันจิจากไหนกันล่ะ?
นี่แหละ ความสวยงามของโลกหนังสือ มันจะมีแผ่นสีแดงๆโปร่งแสงบางส่วนรวมอยู่ด้วย ซึ่งเจ้าแผ่นนี้ เมื่อเราไปวางไว้เหนือหน้ากระดาษ จะทำให้คำแปลภาษาอังกฤษนั้นอัตรธานหายไป เมื่อคุณศึกษาความหมายของมันไปบ้างแล้ว ก็ให้ใช้แผ่นสีแดงนี้ซะ แล้วคุณจะสามารถจดจำการอ่านคำศัพท์นั้นๆได้โดยเห็นแค่ตัวอักษรคันจิเท่านั้น
คุณจะสามารถจดจำรูปร่าง เสียง และความหมายของคันจิแต่ละตัวได้ นอกจากนี้ เนื่องจากคำศัพท์ถูกจัดเป็นหัวข้อเล็กๆที่เป็นระเบียบเรียบร้อยไว้แล้วนั้น คุณจะเริ่มตระหนักถึงตัวคันจิที่เพิ่มขึ้นมาในแต่ละบท คุณก็จะเริ่มเดาการออกเสียงของคำศัพท์ใหม่ๆที่คุณเจอได้และที่สำคัญกว่านั้น คุณจะเริ่มเดาความหมายของมันได้ ถ้าคุณกำลังพยายามจดจำความหมายของตัวอักษรบางตัวอยู่ ลองคิดให้มันง่ายๆแบบนี้ดูสิ:
“โอ้ นั่นคือ 会 (かい พบเจอ) อย่างเดียวกับที่อยู่ใน 会話 (かいわ บทสนทนา) ซึ่งคำทั้งสองคำนี้ มันต้องเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างกับการประชุม หรือการรวมตัวกันอย่างแน่นอน”
会話 พบเจอ + พูดคุย = บทสนทนา
会社 พบเจอ + ในสังคม = บริษัท
นี่แหละส่วนดีของคันจิ มันต้องเกี่ยวข้องกับการสร้างประโยคอยู่วันยันค่ำ
ยิงยาวการฝึกทบทวนไปเลย สักอาทิตย์ละหนึ่งบทและคลังความรู้ของคุณจะเป็นแรงผลักดันที่คุณควรคำนึงถึง

2.ฝึกใช้หลักไวยากรณ์ในชีวิตประจำวันใก้เกิดความชำนาญ
แน่นอน คุณกระวนกระวายใจที่จะต้องพูดภษาญี่ปุ่นให้ได้เดี๋ยวนี้ แต่คุณอาจได้ยินไวยากรณ์ที่ซับซ้อนแบบมหาหินจากมังงะหรือในหนังญี่ปุ่นจนทำให้คุณรู้สึกว่า อะไรกันเนี่ย ก็เป็นได้
เอาแบบนี้ละกัน: ถ้าคุณอยากจะพูดเป็นให้เร็วนักหนาแล้ว คุณจะต้องก้าวไปตามขั้น
แทนที่จะถีบตัวเอง กดดันตัวเองว่าทำไมถึงไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง ลองเริ่มจากฝึกพูดบทสนทนาเล็กๆน้อยๆก่อนเป็นไง เมื่อคุณพบคนๆหนึ่งเป็นครั้งแรก คุณจะพูดว่าอะไร? เริ่มจากตอนคุณตื่นนอนในตอนเช้าล้ากล่าวทักทายเพื่อนร่วมห้องของคุณหรือครอบครัวเขาก่อนดีไหมล่ะ? แค่นี้คุณก็เริ่มจะพูดได้ดีขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ
คุณสามารถทำเช่นนี้ได้ในประเทศญี่ปุ่น ต่อเมื่อสิ่งที่คุณพูดยังเป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวันอยู่ คุณก็จสามารถเริ่มต้นบทสนทนาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว
ทางที่ดีที่สุดในการฝึก: หาเพื่อนคู่หูชาวญี่ปุ่นสักคน
โน้มน้าวเพื่อนของคุณดูสิ คุณมีเพื่อนที่ชื่นชอบอากิระ คุโรซาวะเหมือนกันมั้ย? เกณฑ์เขาเข้ามา อยู่เอกเดียวกันรึเปล่า? ชอบการแข่งขันไหม? เนิร์ดรึเปล่า? ดี!!!
ทีนี้ มาเริ่มกันที่พื้นฐานของคุณก่อนเลย ลองใช้ไวยากรณ์พื้นฐานที่ไว้แนะนำตัวในหนังสือ “みんなの日本語 (みんなのにほんご)” ซึง่เดี๋ยวฉันจะอธิบายเพิ่มเติมในภายหลัง แล้วก็หันหน้าเข้าหากัน คุยกันเลย!!! นึกประโยคที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันดูซิ ว่ามีอะไรบ้าง?
กล่าวทักทาย
おはようございます = อรุณสวัสดิ์
こんにちは = สวัสดี/ทิวาสวัสดิ์
こんばんは = สายัณห์สวัสดิ์
สภาพอากาศ
良い天気ですね。 (いいてんきですね。) = อากาศดีนะ ว่าไหม?
暑いですね。 (あついですね。) = ร้อนจังเลยเนอะ
寒いですね。 (さむいですね。) = หนาวจังเลย
การบอกเวลา
今何時ですか?(いまなんじですか?) = นี่กี่โมงแล้ว?
7時です。 (しちじです。) = 7 โมงเช้าแล้ว
นี่อะไรน่ะ/ นั่นอะไรน่ะ/มันคือ…
今何時ですか?(いまなんじですか?) = นี่/นั่น/โน่นอะไรน่ะ
これ/それは。。。です = นี่/นั่นคือ…
คุณพอจะมี…?
…. ありますか?= คุณมี…/มี…ไหม?
คุณทำอะไรอยู่?
何をしていますか?(なにをしていまか?) = คุณทำอะไรอยู่?
เมื่อวานคุณทำอะไรบ้าง?
昨日何をしましたか?(きのう なにをしましたか?) = เมื่อวานคุณทำอะไรบ้าง?
หาเพื่อนร่วมทางไปกับคุณ ในหนทางการฝึกภาษานี้ แล้วคุณจะรู้สึกเหนื่อยน้อยลงไปเยอะทีเดียว ไม่รู้สึกว่าเราตัวคนเดียว ครั้งแรกคุณก็คงมีเขินอายกันบ้างล่ะ หรือเอาแต่แลกเปลี่ยนเรื่องนั้นเรื่องนี้ ขำกันไปมา แต่ภายหลังคุณจะพบว่า ยิ่งคุณฝึกแลกเปลี่ยนความรู้กัน แม้เพียงแค่ประโยคเรียบง่ายเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งคลายความอึดอัดในตัวคุณและทำให้คุณคุ้นเคยกับหลักไวยากรณ์ เสียงของภาษานั้นๆมากยิ่งขึ้น
ยิ่งพูดมากเท่าไหร่ พัฒนาการของคุณก็จะไปเร็วมากเท่านั้น ฟันธง 100%


3.ทำให้หนังสือเรียนของคุณ ไปได้ไกลกว่าเดิม (โดยการพูดกับมัน?)

อย่างแรกคือ ถ้าคุณไม่มีหนังสือสอนหลักไวยากรณ์ในตัวเลย พุ่งเข้าไปที่เว็บอเมซอนให้ไวว่องแล้วหามาสักเล่ม อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่ดีในการหาแนวทางการฝึกหลักไวยากรณ์ที่มันหลากหลาย แต่ถ้าคุณอยากสร้างพื้นฐานของคุณให้แข็งแรง มีทิศทางที่แน่นอนแล้วเนี่ย เป็นการดีที่สุดที่คุณควรหาแหล่งฝึกเรียนไวยากรณ์ที่รวบรวมไว้ในที่ๆเดียวกันจะดีกว่า
ถึงตอนนี้ฉันเชื่อละว่าคุณคงจะเคยค้นหาหนังสือหลายๆเล่ในอินเทอร์เน็ต เช่นหนังสือ ภาษาญี่ปุ่นสำหรับผู้ไม่ว่าง, เก็งคิ เจแปนนิส และอื่นๆอีกมากมาย พวกนี้ล้วนเป็นแหล่งเพิ่มพูนคลังคำศัพท์ชั้นดีให้กับเราเลย หลักไวยากรณ์ก็ดี ซึ่งมันก็เป็นของตายอยู่แล้วล่ หนังสือระดับนั้น แต่อย่างไรก็ตาม หนังสือเหล่านั้น มันมีคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษและคำแปลอยู่เยอะไป มันโอเคสำหรับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มเรียน แต่การที่จะพึ่งแต่ภาษาอังกฤษไปตลอดการเรียน มันก็ไม่ทำให้คุณก้าวหน้าขึ้นหรอก
การรายล้อมทุกสิ่งไปด้วยภาษาญี่ปุ่นล้วน เป็นวิธีที่ดีที่สุด ถ้าอยากจะเก่งแบบไวว่อง ว่องไวแล้วนั้น ไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่าการเอาตัวเองเข้าไปข้องแวะกับภาษาญี่ปุ่นให้ได้มากที่สุดหรอก พอทำอย่างนั้นแล้ว เชื่อเถอะ ว่าคุณจะรู้สึกอึดอัดกับมันน้อยลง

เข้าไปที่ “みんなの日本語 (みんなのにほんご) (ภาษาญี่ปุ่นเพื่อทุกเพศทุกวัย) แล้วเลือกระดับเริ่มต้น ไล่ไปจนถึงระดับสูง เพชรชิ้นเอกชิ้นนี้เป็นประโยชน์แก่ผู้เริ่มหัดบินอย่างมาก มันจะแนะนำคุณให้รู้จักคุ้นเคยกับโครงสร้างประโยคที่พื้นฐานที่สุดในฮิรางานะ รวมไปถึงการกล่าวแนะนำตัว ทักทายขั้นพื้นฐานทั้งหมดอีกด้วย
ถือเป็นหลักเริ่มต้นที่ดีให้แก่คุณ และก็คอยเชื้อเชิญคุณให้ทำตาม ในขั้นแรก คุณจำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนให้เกิดประโยชน์ในเรื่องของการทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์ต่างๆให้มากที่สุด แต่ก็ต้องจดจำคำเหล่านั้นในบริบทที่แตกต่างกันออกไปให้ได้ด้วย แล้วก็ทำเหมือนที่คุณเคยทำสมัยเด็ก ฝึกทบทวนหลักไวยากรณ์ซ้ำไปซ้ำมา แล้วความหมายต่างๆก็จะสถิตอยู่ในหัวของคุณ
นี่คือสิ่งที่น่ารำคาญใจในการเรียนกับหนังสือ อย่างแรกเลยคือ มันน่าเบื่อ และพาลทำให้เหงาใจ และยังรู้สึกว่าเหมือนกำลังหายใจหลักไวยากรณ์ที่เรียนเข้าไป แล้วก็พ่นออกมา ไม่ได้เก็บไปถึงสมองเลย โดยส่วนตัวแล้ว ฉันเคยหงุดหงิด อารมณ์เสียกับการที่ต้องมานั่งอ่านกฎการใช้หลักไวยากรณ์มากมาย แทนที่จะเอาเวลาไปฝึกพูดเสียดีกว่า
เอ้านี้ เคล็ดลับอีกอย่างให้คุณ
ไปหาหนังสือที่พูดได้ หมายถึงมีแผ่นซีดีแนบมาด้วยอะนะ เป็นวิธีการเดียวที่จะได้ทั้งอ่าน และพูดไปในคราวเดียวกัน เป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องอ่านและประมวลผล แต่ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ ถ้าต้องมาใช้หลักไวยากรณ์ในการสนทนากับผู้อื่น โดยเฉพาะเมื่อใช้กับ “みんなの日本語,” และถ้าคุณได้ลองใช้แผ่นซีดี (ซึ่งคุณควรใช้มัน มันเจ๋งดี) แล้ว คุณจะสามารถ พัฒนาการออกเสียงในภาษาญี่ปุ่นของคุณ ให้เป็นธรรมชาติได้มากขึ้น
ตามนี้แหละ วิธีพูดกับหนังสือ ที่ดูจะเพี้ยนๆหน่อย แต่เดี๋ยวคุณก็ทำได้แหละ แล้วนี่ฉันพูดเรื่อง การอ่านออกเสียงดังๆ จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจกว่านั่งอ่านอยู่คนเดียวแล้วรึยังล่ะ? กรรมของเวร
ถ้าอยากไปให้ไกลกว่าเดิม หรือหาความรู้เพิ่มเติมแล้ว ลองแวะไปที่ shadowing ดูนะ ลองนึกภาพคุณกำลังจะเริ่มงานที่ใหม่ แล้วคุณก็เดินตามรอยรุ่นพี่ที่ทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะทำอะไร คุณก็ทำตามเขาไปเสียหมด ทำแบบนี้
แหละ ทำแบบเดียวกันเลย นี่เป็นวิธีเล็กๆน้อยๆที่จะช่วยเริ่มต้นทางให้กับคุณ:

-ฟังบทพูดบรรยายไปโดยไม่ต้องดูบท
-ฟังอีกครั้งโดยให้อ่านบทตามไปด้วย อย่างเบา
-ฟังอีกทีพร้อมอ่านออกเสียงดังๆพร้อมกับซีดี
-สุดท้าย ปิดหนังสือ และลองพูดทวนประโยคที่พูดไป

(แบบนี้จะทำให้สมองของคุณตื่นตัว และเริ่มกระบวนการคิดว่า เราเพิ่งได้ยินอะไรไป และ
เตรียมคุณให้พร้อมพูดวนใหม่อีกรอบ)

4.สับเปลี่ยนนิสัยของคุณ (เพื่อหาเวลาว่าง)
ถือเป็นเรื่องสำคัญเลย
ถามตัวเองสักสองสามข้อ และต้องตอบอย่างซื่อสัตย์ด้วยนะ: ทำไมคุณถึงไม่เก่งภาษาญี่ปุ่นขึ้นมาบ้างเลย?
คุณอาจจะตอบกลับมาประมาณนี้:
-ฉันไม่มีเวลาเรียนเลย
-ฉันไม่มีความอดทนในการ เพราะมันไม่เห็นจะเก่งขึ้นเลย
-พอกลับจากโรงเรียน/ที่ทำงานแล้ว ฉันอยากพักผ่อนมากกว่า

เฮ้พวก ฉันนึกว่าคุณอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นให้ได้เร็วๆซะอีกแน่ะ
ความจริงที่โหดร้ายก็คือ: การเรียนให้รู้เรื่องเร็วขึ้น มันก็ต้องเรียนให้หนักขึ้นกว่าเดิม วิธีที่ดีที่สุดในการลดความตึงเครียดในการเรียนภาษาก็คือ การรายล้อมไปด้วยภาษาญี่ปุ่น
เอาล่ลองถามตัวเองดู: อยากมากขนาดไหนๆ ถ้าอยากมากๆ เตือนฉันให้คอยถีบคุณให้ลุกออกจากเตียงด้วยนะ
เราจะมาลองวิเคราะห์วันหนึ่งๆของคุณและเปิดเผยทุกอย่าง ทุกเวลา กันดูซิ ว่ายังจะอ้างว่าไม่มีเวลาอีกหรือเปล่า เรากำลังจะอัดภาษาญี่ปุ่นเข้าไปในตัวคุณ
ที่คุณทำ: นั่งดูรายการทีวี HBO
ที่คุณควรทำ: นังดูละครญี่ปุ่น หนังญี่ปุ่น การ์ตูนญี่ปุ่นแทน เปิดคำบรรยายและจดศัพท์
ใหม่ๆทุกๆ 5-10 คำ
ที่คุณทำ: ฟังเพลงโปรดของคุณ
ที่คุณควรทำ: เน้นดู/ฟังรายการพอดแคสต์ญี่ปุ่น ซีดีสอนภาษาญี่ปุ่น พูดตามและเลียนเสียง
ประโยคนั้นๆ ขณะที่คุณกำลังขับรถไปด้วย ปากก็ให้ขยับตามไปด้วย

ที่คุณทำ: แชทคุยกับเพื่อเรื่องสัปเพเหระไปเรื่อยเปื่อย (ซึ่งก็… ปกติอะนะ)
ที่คุณควรทำ: ลากเพื่อนคู่หูฝึกภาษาของคุณ เข้าไปเจอกันในสไกป์ และพูดคุยกันเป็น ภาษาญี่ปุ่นเท่าที่คุณจะพูดได้

ที่คุณทำ: เล่นเกมบนเฟซบุค แคนดี้ครัช, แคลช ออฟ แคลน หรือนั่งเลื่อนเฟซบุคกลับไปกลับมา
ที่คุณควรทำ: ใช้ทุกวินาทีที่หมดไปกับสิ่งเหล่านั้น ไปนั่งทบทวนศัพท์ในแอป JLPT Study
ที่คุณทำ: กดปุ่มเลื่อนตั้งปลุกนับครั้งไม่ถ้วน และก็นอนดึกแทบทุกคืนเพราะนั่งดูรีรันของรายการ สมัย 90

ที่คุณควรทำ: ทำทางจากที่นอนไปที่โต๊ะทำงานของคุณ โดยให้อ่านศัพท์บทที่ 1-5 ก่อน
กาแฟแก้วแรกของคุณ พอตกกลางคืน ใช้เวลา 20 นาทีก่อนเข้านอน ปิดคอมพ์ซะแล้ว ทบทวนบทเรียนที่ 1-5 ก่อนเข้านอน
คุณทำได้แน่นอน และคุณก็รุ้ใจตัวเองด้วยว่าอยากทำมัน
ที่คุณต้องทำก็คือ หาความมุ่งมั่นอันแรงกล้า และความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในตัวคุณให้เจอ (มันมักจะอยู่ระหว่าง ความขี้เกียจ และนิสัยผัดวันประกันพรุ่งของคุณนั่นแหละ) และยึดมันไว้ให้มั่นเหนือหัวของตน
พยายามพูดกับหนังเรียนของคุณ พูดทวนไปกับมัน คิดถึงว่าจะตื่นเต้นขนาดไหนถ้าเราสามารถเอาชนะคำศัพท์ใน สปีด มาสเตอร์ได้ พยายามสร้างบทสนทนาให้มันมีพลัง ตลกขำขันกับเพื่อนคู่หูติวภาษาของคุณเข้าไว้

-おはようございます!= อรุณสวัสดิ์!
-おはよう!元気ですか?(おはよう!げんきですか?) = ว่าไง! สบายดีนะ?
-元気です!それは何ですか?(げんきです!それはなんですか?) ฉันสบายดี นั่นอะไรน่ะ?
-これ?これはオレンジジュースです!(これ?これはオレンジジュースです!) = อ๋อ นี่เหรอ? น้ำส้มน่ะ
-いいですね! = เยี่ยมเลย!

ถึงมันจะเป็นบทสนทนาที่ค่อนข้างตื้นเขินสักหน่อย คุณเข้าใจทั้งหมดนี่มั้ย? ญี่ปุ่นล้วนเนี่ย? เยี่ยม! ถ้ายัง ไปหยิบตำรามาแล้วเริ่มซะ!!!
หมดข้ออ้างแล้วนะ
เปิดเคล็ดลับเหล่านี้ไปพร้อมกันระหว่างที่คุณเรียน แล้วคุณจะสามารถว่ายท่าผีเสื้อในกระแสน้ำที่นำพาไปสู่หนทางในการพูดญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว วิ่งไปสู่หนทางแห่งดวงอาทิตย์ขึ้นเสีย! (หมายถึงธงประจำชาติญี่ปุ่นน่ะ)